พาทุกท่าน
ชมวิวพระอาทิตย์ขึ้น ในยามเช้า ทุกท่านสามารถเห็นวิวเทือกเขาหิมาลัย หรือยอดเขาเอเวอเรสต์ ซึ่งเป็นยอดเขาที่ต้องยอมรับว่าสูงที่สุดในโลก โดยมีความสูงราวๆ 8,848 เมตร และยอดเขาแห่งนี้ยังเปรียบเสมือนเป็น มงกุฏของโลก อีกด้วยนอกจากนี้ทุกท่านจะได้สัมผัสบรรยากาศความหนาว และความสดชื่นของธรรมชาติ พร้อมภาพภูเขาข้างหน้าที่ทุกท่านจะได้เห็นนั้นจะค่อยๆเริ่มเปลี่ยนเป็นสีทองเปล่งประกายตลอดจนพระอาทิตย์ขึ้น ซึ่งถือได้ว่าเป็นภาพที่หายาก และไม่สามารถหาได้ง่ายๆได้ในทั่วไป
(ทุกท่านจะสามารถเห็นเทือกเขาหิมาลัยได้ตลอดแนวตั้งแต่ฝั่งตะวันตกไปจนถึงตะวันออกได้นั้น ขึ้นอยู่กับสภาพอากาศในวันนั้นๆเป็นที่สำคัญ)
เช้า
บริการอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม
นำท่านเดินทางไปยัง
เมืองภักตะปุร์ หรือรู้จักกันในนาม “เมืองแห่งผู้มีจิตศรัทธา” ตั้งอยู่ห่างจากกรุงกาฐมาณฑุ ไปทางทิศตะวันออกประมาณ 12 กิโลเมตร เป็นเมืองที่เต็มไปด้วยเสน่ห์ในยุคกลาง มีร่องรอยความเจริญรุ่งเรืองทางด้านศิลปะและวัฒนธรรม โดยเสน่ห์ความน่าหลงใหลของเมืองนี้อยู่ที่วิถีชีวิตของชาวเมืองที่สามารถอยู่รวมกับอาณาจักรโบราณได้อย่างกลมกลืน ปัจจุบันถือว่าเป็นเมืองแห่งวัฒนธรรมที่มีชื่อเสียง ได้รับความนิยมอย่างมากจากนักท่องเที่ยว ได้รับขนานนามว่า
“เมืองแห่งอัญมณีทางวัฒนธรรมของเนปาล” เมืองภักตะปุร์ถือว่าเป็นเมืองเล็กที่มีชื่อเสียงในเรื่องของงานแกะสลักไม้ และการทำภาทคาวันโตปี หรือหมวกแก๊ป นอกจากนี้แล้วยังเป็น 1 ใน 7 กลุ่ม ของมรดกทางวัฒนธรรมในเขตหุบเขากาฐมาณฑุ ซึ่งองค์การยูเนสโกได้รับการยกย่องให้เป็นมรดกโลก ในปี 1979
พาทุกท่านเยี่ยมชม
จัตุรัสภักตะปุร์ ดูร์บาร์ ที่ตั้งของหมู่พระราชวัง วิหารและสิ่งก่อสร้างต่างๆในศิลปะสกุลช่างเนวารีแท้ นำท่านชม
ประตูทองคำ เป็นทางเข้านำไปสู่ลานของพระราชวังนามว่า “พระราชวัง 55 หน้าต่าง หรือ Palace of 55 Windows” สร้างโดยกษัตริย์รานจิต มัลละ เป็นประตูที่มีการแกะสลักงดงามและสมบูรณ์ที่สุดในโลก มีการประดับตกแต่งลวดลายของเหล่าเทพและอสูรต่างๆไว้อย่างประณีต
จากนั้นเยี่ยมชม
พระราชวัง 55 พระแกล สร้างขึ้นในปี พ.ศ. 2243 เนื่องจากภักตะปุร์เคยเป็นเหมืองหลวงที่เก่าแก่ และมีความรุ่งเรืองทางการค้า จึงทำให้มีพระราชวังที่งดงามที่สุดของสถาปัตยกรรมแบบเนปาลในสมัยศตวรรษที่ 18 เช่น ที่ระเบียงของหน้าต่างทั้ง 55 บาน ซึ่งอยู่บนกำแพงอิฐ ได้รับการออกแบบและมีการจัดวางอย่างสวยงาม ระเบียงนี้จัดได้ว่าเป็นผลงานชิ้นสำคัญในด้านการแกะสลักไม้
นอกจากนี้ทุกท่านสามารถชมวัดหินที่มีชื่อว่า
พัตสะละ เทวี ตั้งอยู่ที่จัตุรัสดูร์บาร์ด้วยเช่นกัน เป็นวัดที่มีงานแกะสลักมากมาย เป็นตัวอย่างของสถาปัตยกรรมแบบศิขะระ บนระเบียงวัดมีระฆังทองสัมฤทธิ์แขวนอยู่ซึ่งเป็นที่รู้จักกันในชื่อ
“ระฆังหมาเห่า” ในสมัยก่อนมีการตีระฆังมหึมาใบนี้เพื่อบอกเวลานับจากที่ได้นำมาตั้งไว้ในปีพ.ศ. 2280
อิสระทุกท่านชมผลงานทางสถาปัตยกรรมจำนวนมากมายนับไม่ถ้วน
อาทิ ประตูสิงห์ รูปสลักของกษัตริย์ ภูปตินทระ มัลละ หอแสดงภาพ วัดพัตสะละ โดยเฉพาะรูปสลักอันวิจิตรของกษัตริย์ภูปตินทระ มัลละกำลังอยู่นในท่าแสดงความเคารพ ซึ่งตั้งอยู่บนเสาหินที่หันหน้าเข้าสู่ตัวปราสาทนั้นได้รับการขึ้นทะเบียนจากองค์การยูเนสโกให้เป็นอนุสาวรีย์แห่งมรดกโลกเมื่อปี พ.ศ. 2522
เที่ยง บริการอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร
เมนูพิเศษ!! อาหารไทย
นำท่านเดินทางสู่
เมืองปะฏัน หรือเมืองที่ได้รับขนานนามว่า “เป็นเมืองเก่ามรดกโลก” ด้วยประติมากรรมที่ประกอบไปด้วยพระราชวังน้อยใหญ่ภายในเมืองปะฏัน หรือเมืองลิลิตปูร์ โดยเมืองแห่งนี้นั้นเป็นเมืองโบราณที่ตั้งอยู่เหนือแม่น้ำพัคมาตี อีกทั้งเมืองแห่งนี้นั้นยังถือว่าเป็นเมืองคู่แฝดของเมืองกาฐมาณฑุอีกด้วย มีชื่อเสียงทางด้านศิลปะ เป็นศูนย์กลางกลางงานหัตถศิลป์ของชาวทิเบต และยังมีชื่อเสียงในเรื่องของพระพุทธรูป นับเป็นนครโบราณที่ยังมีชีวิต ภายในเมืองเต็มไปด้วยวัดทางศาสนาฮินดูและสิ่งปลูกสร้างในพุทธศาสนา อันเนื่องมาจากความหลากหลายของวัฒนธรรมในยุคกลางที่ทำให้ทั้งศาสนาฮินดูและศาสนาพุทธเฟื่องฟูในแถบนี้
นำทุกท่านไปยัง
จัตุรัสปะฏัน ดูร์บาร์ ตั้งอยู่ตรงใจกลางเมือง จัตุรัสแห่งนี้เต็มไปด้วยพระราชวังโบราณ วัด และโบสถ์ที่เก่าแก่มีชื่อเสียงในด้านการแกะสลักที่ประณีตงดงาม นอกจากนี้อาคารโดยรอบจัตุรัสเป็นบ้านเรือนประชาชนที่แกะสลักบานประตูและหน้าต่างอย่างสวยงาม
จากนั้นนำท่านไปยัง
พระราชวังปะฏัน ถือได้ว่าเป็นต้นแบบของงานสถาปัตยกรรมแบบศิขะระของเนปาล ตั้งอยู่ในบริเวณจัตุรัสปะฏัน ดูร์บาร์ ในเขตพระราชวังและจัตุรัสปะฏัน ดูร์บาร์ประกอบไปด้วย “ฉอก” หรือ “ลาน” 3 แห่งสำคัญ ได้แก่ มุลกลางฉอก สุนทรีฉอก และเกศาร์ นารายัณฉอก บริเวณตรงกลางของสุนทรี ฉอกมีห้องอาบน้ำหลวงที่เรียกว่า
“ตุศาหิตี” ซึ่งนับว่าเป็นสถาปัตยกรรมหินชิ้นสำคัญด้วย จัตุรัสนี้ได้รับการขึ้นทะเบียนจากองค์การยูเนสโกเป็นมรดกโลกอีกแห่งหนึ่ง
นำท่านไปยัง
เมืองกาฐมัณฑุ เป็นเมืองหลวงของประเทศเนปาล และเป็นเมืองที่ใหญ่ที่สุดในประเทศเนปาลอีกด้วย เมืองกาฐมัณฑุเป็นเมืองที่ถือว่าหากใครที่มาเยือนเนปาลแล้วต้องมาเยือนนี้ด้วย เพราะที่นี่นั้นเป็นจุดศูนย์รวมทั้งการค้า การเดินทาง วัฒนธรรม หรือสถานที่ท่องเที่ยวที่สำคัญอีกมากมาย อาทิเช่น สวยัมภูวนาถ หรือวัดลิง จัตุรัสกาฐมาณฑุดูร์บาร์ ย่านถนนทาเมล หรืออื่นๆ จากนั้นนำทุกท่านเดินทางไปยังที่พักเพื่อทำการเช็คอิน
ค่ำ
บริการอาหารค่ำ ณ ห้องอาหารของโรงแรม